Trump ตั้งกำแพงภาษี No Further a Mystery

อีเมลนี้เคยเข้าใช้งานแล้ว สามารถ ลงชื่อเข้าใช้ ได้ทันที สร้างรหัสผ่าน

ศาสตราจารย์สตีเฟน มิลลาร์ด จากสถาบันแห่งชาติว่าด้วยการวิจัยทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเป็นสถาบันคลังสมองในสหราชอาณาจักร ระบุว่า หากมาตรการทางภาษีระลอกล่าสุดของสหรัฐฯ มีผลบังคับใช้ อาจจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของแคนาดาและเม็กซิโกเป็นหลัก

เศรษฐกิจไทยส่อชะลอตัวจากพิษ ‘กำแพงภาษี’ 

“อำนาจทางเศรษฐกิจ คือ อำนาจทางการเมือง”

นอกจากนี้ แคนาดายังได้แสดงความพร้อมในการทำงานร่วมกับสหรัฐฯ เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดและความมั่นคงชายแดน

ภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยังคงมีการจัดเก็บภาษีนำเข้าในอัตราดังกล่าวเป็นส่วนใหญ่จากจีน และยังมีการประกาศเพิ่มภาษีนำเข้ารายการใหม่ด้วยในสินค้าอย่างเช่น รถยนต์ไฟฟ้า

ในงานแถลงข่าวที่ โรส การ์เดน ของทำเนียบขาว ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาสหรัฐฯ “ถูกปล้น ถูกช่วงชิง ถูกข่มขืน และถูกขโมย โดยประเทศต่างๆ ทั้งใกล้และไกล ทั้งมิตรและศัตรูไม่ต่างกัน”

“แต่สิ่งที่น่าห่วง คือ หากคำประกาศหากชัดเจนจะสร้างความวุ่นวายเกี่ยวกับดีมานด์ ซัพพลายโลกอย่างมาก ตรงนี้ไทยต้องตั้งรับ และวางหมากรุก หมายความว่าก็อาจจะเปิดโอกาสให้เราหาตลาดใหม่ ไม่อย่างนั้น สินค้าหลายประเทศ ไปไม่ได้จริงๆ ก็อาจจะไหลลงมาอาเซียนและไทยได้”

เราหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับท่านในฐานะพันธมิตรทางการค้าต่อไปอีกหลายปี หากประเทศไทยประสงค์จะเปิดตลาดการค้าที่เคยปิดไว้ต่อสหรัฐฯ และยกเลิกนโยบายกำแพงภาษี รวมถึงมาตรการกีดกันทางการค้าอื่นๆ เราอาจพิจารณาปรับเงื่อนไขในจดหมายฉบับนี้ ทั้งนี้ อัตราภาษีดังกล่าวสามารถปรับเพิ่มหรือลดได้ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเรา

“นี่คือวันปลดแอก” นายทรัมป์กล่าว และเสริมว่า “นี่จะเป็นวันที่ได้รับการจดจำตลอดไปในฐานะวันที่อุตสาหกรรมอเมริกันได้เกิดใหม่อีกครั้ง วันที่โชคชะตาของอเมริกาถูกนำกลับคืนมา”

โดยในจดหมายที่โพสต์ถึงประเทศไทยมีใจความดังนี้

คำบรรยายภาพ, ภาษีนำเข้าสหรัฐฯ Trump ตั้งกำแพงภาษี อาจส่งผลให้อัตราการว่างงานในเม็กซิโกเพิ่มสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม “ไทยยังต้องเผชิญกับการไหลบ่าของสินค้าจากประเทศอื่นๆ ที่แสวงหาตลาดทดแทนสหรัฐฯ ดังนั้น การเร่งสร้างมาตรการรองรับ รวมถึงการเพิ่มความตระหนักให้ผู้ซื้อพิจารณาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันการขาดดุลการค้าที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต”

“เราจะเก็บภาษีพวกเขาประมาณครึ่งหนึ่งจากที่พวกเขาทำและเก็บจากสหรัฐฯ มาตลอด ดังนั้นกำแพงภาษีนี้ยังไม่ใช่การตอบโต้อย่างเต็มที่” นายทรัมป์กล่าว “ผมควรจะทำอย่างนั้น ผมคิดว่านะ แต่มันคงจะยากลำบากสำหรับประเทศมากมาย และเราไม่ต้องการทำแบบนั้น”

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *